Ad Code

Responsive Advertisement

ทำความรู้จักกับ Synology Hybrid RAID (SHR)



Synology Hybrid RAID หรือเรียกชื่อย่อว่า SHR คือการกำหนดการจัดเก็บข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์แบบ RAID แบบหนึ่ง ที่มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันข้อมูลจากการเสียหายของฮาร์ดดิสก์หรือเอสเอสดี แต่ถูกออกแบบให้มีการใช้ทรัพยากรในฮาร์ดดิสก์ได้ดีกว่า เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกัน SHR จะมีข้อดีกว่า Classic RAID ใน 2 ประเด็นใหญ่ๆดังนี้

1) การใช้พื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ได้คุ้มค่ากว่า 

-  Classic RAID : ในการสร้าง RAID Group โดยปกติทางเราจะแนะนำให้ใช้ ฮาร์ดดิสก์ขนาดเดียวกันทั้งหมดเพื่อเสถียรภาพการทำงานและสะดวกในการดูแลรักษา การจัดเตรียม Spare Unit.

แต่ในบางครั้งลูกค้ามีฮาร์ดดิสก์เก็บเอาไว้อยู่แล้วและมีขนาดที่ต่างกัน อยากนำมาใช้งานก็สามารถทำได้ โดย Classic RAID จะมองที่ฮาร์ดดิสก์ขนาดความจุที่น้อยที่สุดเป็นหลักในการจัดทำ RAID Group ซึ่งฮาร์ดดิสก์ที่มีขนาดใหญ่กว่าก็จะมีส่วนเกินที่ไม่ถูกนำมาใช้ จากภาพด้านล่างจะเห็นว่ามีพื้นที่ส่วนเกินที่ไม่ถูกนำมาใช้งานจำนวนหนึ่ง (ขึ้นกับประเภทของ RAID)


 

- Synology Hybrid RAID : การสร้าง RAID Group แรกจะเหมือนกับ Classic RAID เพียงแต่พื้นที่ส่วนเกินในฮาร์ดดิสก์จะไม่เสียเปล่า SHR สามารถนำมาสร้าง RAID Group ใหม่ได้อีก

บนแนวคิดเดิมคือจะมองที่ขนาดความจุที่น้อยที่สุดเป็นหลักก่อน และถ้ามีส่วนเกินอีกก็สามารถนำมาสร้าง RAID Group ใหม่ต่อๆได้อีกตามรูปด้านล่าง (SHR-1 หรือ SHR-2)





2) การขยายพื้นที่ในสตอเรจพูลสามารถทำได้ โดยที่มีข้อจำกัดน้อยกว่า  

-  Classic RAID : ในการเพิ่มขนาดของ Storage Pool โดยการเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์ ซึ่งต้องเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ทุกลูกจึงจะทำได้ ตามรูปภาพด้านล่างนี้


- Synology Hybrid RAID : ในการเพิ่มขนาดของ Storage Pool สามารถเพิ่มได้ด้วยข้อจำกัดที่น้อยกว่า  โดยสามารถทำได้ตั้งแต่ฮาร์ดดิสก์ 2 ลูกขึ้นไป ตามรูปภาพด้านล่างนี้



โปรดทราบว่า RAID หรือ SHR เป็นการปกป้องข้อมูลเบื้องต้นในระดับฮาร์ดแวร์เท่านั้น ส่วนการเก็บรักษาข้อมูลสำคัญแนะนำให้ดำเนินการตามแนวทาง "3-2-1 Backup Rule

Close Menu