คุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งของอุปกรณ์เก็บข้อมูลเครือข่ายแบบ NAS นั่นคือความสามารถในการกำหนดการจัดเก็บข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์แบบ RAID ที่ช่วยในการป้องกันความเสียหายของข้อมูลอันเนื่องจากความล้มเหลวในการทำงานของฮาร์ดดิสก์หรือเอสเอสดีบางส่วน ภายใต้เงื่อนไขของความทนทานต่อความเสียหาย (Fault tolerance) ของ RAID แต่ละประเภท โดยที่คุณสมบัติอันนี้จะช่วยรักษาข้อมูลไว้ได้ในระดับหนึ่ง
อย่าฝากไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว
อย่างไรก็ตาม การฝากข้อมูลสำคัญไว้ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลเครือข่ายแบบ NAS เพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอในการรักษาข้อมูลที่สำคัญ โดยอาจมีสาเหตุได้หลายประการเช่น
- ฮาร์ดดิสก์หรือเอสเอสดี เสียหายเกินกำหนดของ Fault tolerance ของ RAID
- ฮาร์ดแวร์เสียหายจากระบบไฟฟ้า ไฟกระชาก Power Surge
- ความผิดพลาดจากผู้ใช้งานโดยไม่ตั้งใจหรือไม่เข้าใจ
- ถูกโจมตีโดยไวรัสเรียกค่าไถ่จากผู้ใช้งานในการกดลิ้งค์ที่มีไวรัสแฝงมา
- ถูกโจมตีโดยแฮ็คเกอร์จากภายนอกผ่านโปรโตคอลต่างๆเช่น http, VPN, FTP, SSH
- อุปกรณ์เสียหายจากอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ
จึงได้มีแนวคิดในการปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรมาใช้ที่เรียกว่า Disaster Recovery Plan แนวความคิดนี้จะถูกนำมาใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ มีข้อมูลปริมาณมาก และมีงบประมาณสำหรับส่วนนี้โดยเฉพาะ
โดยจะมีการสำรองข้อมูล (Backup) จากเซิร์ฟเวอร์ไปไว้ในอุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเทปแป็คอัพ (Tape Backup) และนำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยห่างจากเซิร์ฟเวอร์ออกไป โดยมีบุคลากรดำเนินการตามตารางการสำรองข้อมูล เพื่อปกป้องข้อมูลจากภัยพิบัติ และ กู้คืนระบบโดยใช้เวลาน้อยที่สุด
3-2-1 Backup Rule
สำหรับผู้ใช้งานอุปกรณ์เก็บข้อมูลเครือข่ายแบบ NAS สามารถทำการสำรองข้อมูล (Backup) ในลักษณะเดียวกับองค์กรขนาดใหญ่ได้เช่นเดียวกัน โดยใช้งบประมาณที่น้อยลงกว่ามาก นั่นคือที่มาของ 3-2-1 Backup Rule ซึ่งเราจะนำมาอธิบายเพิ่มเติมดังนี้
>> มีข้อมูล 3 สำเนาไว้เสมอ
ข้อมูลต้นฉบับที่สำคัญ ต้องมีการสร้างสำเนา หรือ Backup เอาไว้อีก 2 สำเนาเสมอ
>> เก็บบันทึกไว้ใน 2 อุปกรณ์
เก็บสำเนาข้อมูลไว้ในอุปกรณ์อื่นที่เชื่อถือได้ นอกจากอุปกรณ์หลัก เช่น NAS, External HDD หรือ Cloud Storage
>> เก็บสำเนาไว้ใน 1 อุปกรณ์ที่อยู่ห่างออกไป
เพื่อป้องกันข้อมูลเสียหายจากอุบัติเหตุ หรือภัยพิบัติต่างๆ จึงแนะนำให้นำอุปกรณ์ที่เก็บสำเนาไว้ในที่ห่างออกไป (Off Site / Remote Site)
การใช้งานอุปกรณ์เก็บข้อมูลเครือข่ายแบบ NAS เพื่อจัดเก็บข้อมูลไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด จะต้องมีการตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์และการทำสำเนาข้อมูลต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และ ทางเราแนะนำให้มีการส่งอีเมล์เตือนเมื่อพบการทำงานผิดปกติไปยังผู้จัดการระบบหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง (Notifications) เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขโดยทันที
NAS Thailand
จำหน่ายระบบ NAS ราคาพิเศษ
พร้อมบริการหลังการขายที่มีความชำนาญ