การเข้าถึงข้อมูลจากรีโมทเซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ด้วย HybridMount

HybridMount แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้เราใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage) หรือ รีโมทเซิร์ฟเวอร์จากหลายแหล่ง ด้วยการผ่านการใช้งานจากจุดเดียว ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ สำรองข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ 

HybridMount สามารถเลือกทำงานได้ใน 2 โหมดคือ

- การใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (File Cloud Gateway)

เป็นการเชื่อมต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ ด้วยโปรโตคอล SMB, AFP, NFS, FTP และ WebDAV

โหมดนี้รองรับการจัดการ Caching ทำให้การเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การเข้าถึงข้อมูลเดียวกันจากผู้ใช้หลายคนจะทำให้มีการใช้แบนด์วิดธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเชื่อมต่อแบบนี้จะต้องใช้ License โดยมีให้ใช้ฟรี 2 ไลเซนส์ หากต้องการมากกว่านี้สามารถซื้อเพิ่ม

- การใช้งานพื้นที่จากรีโมทเซิร์ฟเวอร์ (Network Drive Mount)

เป็นการเชื่อมต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจากรีโมทเซิร์ฟเวอร์ หรือ NAS เครื่องต่างๆ ด้วยโปรโตคอล CIFS/SMB, FTP/FTPS, NFS หรือ WebDAV สามารถเรียกใช้งานผ่าน Windows Explorer, File Station หรือ Qfile ด้วยความสะดวกรวดเร็วจากบัญชีเดียว 

จากแผงผังด้านล่างนี้ แสดงให้เห็นโครงสร้างการทำงานของ HybridMount ที่เป็นตัวกลางในการเรียกใช้ และ เชื่อมต่อกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป้าหมาย ผ่านการเรียกใช้บริการจากโปรโตคอลประเภทต่างๆ

การติดตั้งและใช้งาน

1) การติดตั้งและใช้งาน HybridMount

    - ในช่องค้นหาใส่คำว่า HybridMount แล้วกด Install เพื่อติดตั้ง

2) เมื่อเปิดการใช้งาน HybridMount และสร้างการเชื่อมต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูล จะมีให้เลือกระหว่าง Create File Cloud Gateway และ Create Network Drive Mount

3. โหมด File Cloud Gateway เพื่อสร้างการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการคลาวด์สตอเรจที่มีให้เลือกใช้บริการอยู่หลายเจ้า ในตัวอย่างนี้ เราเลือก Microsoft OneDrive ให้ระบุบัญชีและรหัสผ่านของอีเมล์ที่เราใช้บริการ จะมีหน้าต่างเพื่อยืนยันความปลอดภัย หากทำถูกขั้นตอนจะปรากฏหน้าต่างแสดงสถานะการเชื่อมต่อ และหน้าต่างการกำหนด Cache เพื่อเพิ่มความเร็วในการใช้งานจากคลาวด์

    ภาพรวมบอกสถานะการเชื่อมต่อ File Cloud Gateway มีการใช้ License ไปแล้ว 1 จากที่มีอยู่ 2 และสถานะของ Cache Space ว่ามีการใช้พื้นที่ไปเท่าไหร่แล้ว

4. โหมด Network Drive Mount สร้างการเชื่อมต่อกับรีโมทเซิร์ฟเวอร์

        - Server URL : กำหนด url หรือ ไอพีแอดเดรสของเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการ

        - Protocol : เลือกโปรโตคอลในการเชื่อมต่อ

        - Account : ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน ที่มีสิทธิเข้าถึงโฟลเดอร์

        - Password : รหัสผ่าน

        - Destination folder : โฟลเดอร์ที่ต้องการเข้าถึง

        - Connection name : ชื่อเรียกแทนโฟลเดอร์นี้

        การใช้งานในโหมดนี้ไม่ต้องใช้ License จึงสามารถสร้างการเชื่อต่อได้ไม่จำกัด

หรือสร้างการเชื่อมต่อกับรีโมทเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ต่างสำนักงาน เพื่อนำมาใช้ร่วมกันผ่าน WebDAV

 

5. เมื่อสร้างการเชื่อมต่อทั้ง 2 แบบเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเข้าไปใช้งานเหมือนเน็ตเวิร์กไดร์ฟใน Windows Explorer ตามปกติ  

หรือหากอยู่ภายนอกออฟฟิศก็สามารถใช้งานคลาวด์เข้ามาใช้งานผ่าน File Station หรือ Qfile ก็ได้